เกร็ดความรู้

เกร็ดความรู้

คุณรู้จักแสง UVC แค่ไหน ?

แสง UV – C

เป็นช่วงแสงที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่จุดเด่นคือ มีคุณสมบัติพิเศษ ที่มีความยาวคลื่นยาวกว่ารังสี XRays ทำให้มีพลังงานสูง สามารถส่องทะลุผ่านผิววัตถุได้ง่ายกว่าแสงที่เราเห็นทั่วๆ ไป

แสงยูวีที่นำมาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคนั้น เกิดมาจากการสังเคราะห์UVC ขึ้นเอง นั้นก็คือระบบ “UVGI” (Ultraviolet Germicidal Irradiation) หรือ ระบบการใช้แสงยูวีที่มีความเข้มข้นสูงพิเศษ (Germicidal Range) เพื่อฆ่าและทำลายเชื้อโรค ไม่ว่าจะเป็น Virus Bacteria Fungi และ Yeast & Mold ที่อยู่บนพื้นผิวและในอากาศหากเชื้อโรค ได้รับปริมาณแสง UVC ในระยะเวลาที่เพียงพอ แสงยูวีจะทะลุเข้าไปใน DNA หรือ RNA ของเชื้อโรค ทำให้ DNA หรือ RNA เพี้ยนไปจากปรกติ เชื้อโรคไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ ก็จะตายในที่สุด ซึ่งวิธีนี้จะเป็นวิธีการทำลายเชื้อโรคชนิดรุนแรง UV-C เป็นรังสียูวีที่มีความยาวคลื่นสั้น หากใช้ด้วยความเข้ม หรือระดับปริมาณที่เหมาะสม จะมีคุณสมบัติในการทำลายจุลินทรีย์ หรือจุลชีพ ซึ่งรวมถึงเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ด้วยโดยความยาวคลื่นที่เหมาะสมในการทำลายเชื้อจุลชีพอยู่ที่ประมาณ 200 – 313 นาโนเมตร

แสง UV ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไร ?

ใน RNA Virus เช่น SARS-CoV-2 หรือ COVID-19 ซึ่งเป็ น ssRNA นั้น รังสียูวีในช่วง UVGI นี้จะถูกดูดกลืน ด้วย RNA ของไวรัสทําให้เกิด Pyrimidine Dimer คล้ายกับการเกิดในเชื้อจุลินทรีย์และ DNA virus แต่เกิดปฏิกิริยาในตําแหน่งหมู่เบสยูราซิล (Uracil, U) นิวคลีโอไทด์ แทนหมู่เบสไทมีน (Thymine, T) Adenine Guanine

รังสีอัลตราไวโอเลต 

( Ultraviolet Radiation : UV )

เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สั้น ช่วงต่อจากแสงสีม่วง (ระหว่าง Visible Spectrum กับ X-ray) เป็นรังสีที่ตาคนมองไม่เห็น และไม่สามารถรับรู้ได้อย่างคลื่นรังสีอินฟราเรด (IR) แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

UVA

ช่วงความยาวคลื่น 315 – 400nm รู้จักกันในนามของ “Black light”เป็นรังสีที่มีอันตรายและระคายเคืองผิวมนุษย์น้อยที่สุด สามารถนำ มาใช้เป็นประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น การทำ Skin Tanning การรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของผิวหนัง การใช้ประโยชน์ทางด้านเคมี, ฟิสิกส์

UVB

ช่วงความยาวคลื่น 280 – 315 nm ก่อให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง (Sunburn or Erythematic) ทำให้เกิดการเผาไหม้ และการอักเสบของตาดำหรือระคายเคืองตาได้ แต่มีคุณประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ รวมถึงการประยุกต์ ในงานอุตสาหกรรมเคมี

UVC

ช่วงความยาวคลื่น 100 – 280 nm เป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมนุษย์ถึงขั้นรุนแรง เช่น ผิวแดงไหม้เกรียม (Erythema) หรือ เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) หรือตาบอด ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคได้ โดยระดับความยาวคลื่นที่ 253.7 nm มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อมากที่สุด

แสง UV ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไร ?

ใน RNA Virus เช่น SARS-CoV-2 หรือ COVID-19 ซึ่งเป็ น ssRNA นั้น รังสียูวีในช่วง UVGI นี้จะถูกดูดกลืน ด้วย RNA ของไวรัสทําให้เกิด Pyrimidine Dimer คล้ายกับการเกิดในเชื้อจุลินทรีย์และ DNA virus แต่เกิดปฏิกิริยาในตําแหน่งหมู่เบสยูราซิล (Uracil, U) นิวคลีโอไทด์ แทนหมู่เบสไทมีน (Thymine, T) Adenine Guanine

รังสีอัลตราไวโอเลต ( Ultraviolet Radiation : UV )

เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สั้น ช่วงต่อจากแสงสีม่วง (ระหว่าง Visible Spectrum กับ X-ray) เป็นรังสีที่ตาคนมองไม่เห็น และไม่สามารถรับรู้ได้อย่างคลื่นรังสีอินฟราเรด (IR) แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

UVA

ช่วงความยาวคลื่น 315 – 400nm รู้จักกันในนามของ “Black light”เป็นรังสีที่มีอันตรายและระคายเคืองผิวมนุษย์น้อยที่สุด สามารถนำ มาใช้เป็นประโยชน์ได้หลายด้าน เช่น การทำ Skin Tanning การรักษาโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของผิวหนัง การใช้ประโยชน์ทางด้านเคมี, ฟิสิกส์

UVB

ช่วงความยาวคลื่น 280 – 315 nm ก่อให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง (Sunburn or Erythematic) ทำให้เกิดการเผาไหม้ และการอักเสบของตาดำหรือระคายเคืองตาได้ แต่มีคุณประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ รวมถึงการประยุกต์ ในงานอุตสาหกรรมเคมี

UVC

ช่วงความยาวคลื่น 100 – 280 nm เป็นรังสีที่เป็นอันตรายต่อผิวหนังมนุษย์ถึงขั้นรุนแรง เช่น ผิวแดงไหม้เกรียม (Erythema) หรือ เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) หรือตาบอด ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคได้ โดยระดับความยาวคลื่นที่ 253.7 nm มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อมากที่สุด